The best Side of ฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า
The best Side of ฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า
Blog Article
ควรไปผ่าฟันคุดหากมีอาการดังต่อไปนี้
ในกรณีที่ตัวฟันขึ้นได้อย่างสมบูรณ์และไม่มีอาการอื่นๆ คนไข้อาจคิดว่าสามารถที่จะปล่อยไปเลยโดยไม่ถอน แต่เราก็แนะนำให้เอาฟันคุดออกอยู่ดี เพราะตัวฟันจะอยู่บริเวณด้านในของช่องปาก ทำให้การแปรงฟันหรือดูแลรักษาทำได้ยาก ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อฟันผุ
กรณีที่ต้องผ่าฟันคุดเกิดจากฟันคุดอยู่ลึกลงไปใต้เนื้อเยื่อของเหงือก หรือฟันงอกขึ้นมาบางส่วนแต่มีลักษณะนอน ไม่ตั้งตรง ไม่สามารถดึงขึ้นมาได้ กรณีนี้ทันตแพทย์มักใช้วิธีผ่าเหงือก และอาจมีการตัดผ่าแบ่งฟันออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วค่อยคีบนำฟันออกมาจากเบ้าฟัน
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดฟันคุดยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าเกิดจากวิวัฒนาการของมนุษย์ที่ขนาดของกระดูกขากรรไกรเล็กลงเมื่อเวลาผ่านไป ในขณะที่จำนวนฟันยังคงเท่าเดิม ทำให้พื้นที่สำหรับฟันลดน้อยลง จึงมีช่องว่างไม่เพียงพอสำหรับฟันที่จะงอกขึ้นมาอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ฟันงอกออกมาในลักษณะที่ผิดปกติ เช่น งอกอยู่ใต้เหงือก งอกเอียง งอกในแนวราบ
หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคตับอักเสบ ให้ปรึกษาทันตแพทย์ก่อน
ในผู้สูงอายุ หากพิจารณาแล้วว่า การผ่าตัดฟันคุดนั้น มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บของเส้นประสาทฟัน หรือการทะลุของโพรงไซนัส ก็อาจไม่จำเป็นต้องผ่าตัดฟันคุดซี่นั้นออก
ฟันคุดใต้เหงือกที่ตั้งตรง ซึ่งแม้ยังไม่ขึ้นแต่มีโอกาสขึ้นได้ตามปกติในเวลาต่อมา อาจใช้วิธีแก้ไขปัญหาตามอาการ เช่น ล้างทำความสะอาดเศษอาหารที่กักอยู่ใต้เหงือก เพื่อลดการอักเสบ หรือกรอมนปุ่มยอดฟันคู่สบที่กัดชนเหงือก แล้วคอยติดตามดูอาการจนฟันซี่สุดท้ายนี้ขึ้นได้ตามปกติ
ฟันคุดที่อยู่ลึกในกระดูก – หากฟันคุดฝังอยู่ลึกในกระดูกขากรรไกรและไม่มีแนวโน้มที่จะขึ้นมา ก็อาจไม่จำเป็นต้องผ่าตัด เพราะการผ่าอาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อและเสียหายต่อเส้นประสาทมากกว่า
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับฟันคุด ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
อาจเกิดความเสียหายบริเวณฟันรอบๆ เส้นประสาท รวมถึงขากรรไกร
ฟันปลอมหลวม หลุด ทำยังไงดี บทความนี้มีคำตอบ
ฟันล้ม คืออะไร รักษายังไง ถ้าปล่อยไว้จะเกิดอะไรขึ้น
ความเร็วในการฟื้นตัวของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ฟันคุดแบบไหนไม่ต้องผ่า เพราะเคสผ่าตัดแต่ละเคสมีความซับซ้อนไม่เหมือนกัน รวมถึงสุขภาพโดยทั่วไปของคนไข้แต่ละคนด้วย ทางที่ดีที่สุดคือค่อยๆ รับประทานอาหารที่แข็งขึ้นทีละนิด ให้พอเท่าที่ร่างกายรับไหวจะดีกว่า